STARRY NIGHT 17: ยิหวายาหยี (CUT)

STARRY NIGHT 17: ยิหวายาหยี
ดวงยิหวาแสนซน เจ้ายาหยีแสนรัก
แทนเจ้าด้วยสองคำนั้น แปลด้วยรักไม่นึกเปลี่ยน


ความโหยหาย ช่างรุนแรงเสียยิ่งกว่าความเป็นห่วงหลายขุม

มันทั้งร้อนเร่า ทั้งเอาแต่ได้ และแสนจะเห็นแก่ตัว ทว่าหลอกล่อให้ยินยอมพร้อมใจอย่างน่าประหลาด

ลู่หานยืนยันความจริงนั้นด้วยจูบแสนละโมบช่วงชิง ตักตวง และเอาแต่ใจจากชายตรงหน้า แทบไม่ได้สังเกตแม้แต่น้อยว่าเขาไปเอาผ้าปูผืนหนามาปูทับฟูกนอนตั้งแต่ตอนไหน กว่าจะรู้ตัวก็เป็นตอนที่แผ่นหลังเกือบจะเปล่าเปลือยแนบสนิทเสียแล้ว

......ใจร้อน...

“เจ้าไม่รู้หรอกว่าข้าต้องกล้ำกลืนอดทนมากขนาดไหน” น้ำเสียงเขาพร่าสั่นเครือ ฝ่ามือกร้านออกรบจับศึกเกลี่ยพวงแก้มอ่อนโยน ความปรารถนาลุกโชนฉายชัดนัก “ข้าอยากกอดเจ้า...แค่คิดว่าจะได้ฟังเสียงเจ้าครางระงมข้างหูร้องเรียกชื่อก็จวนจะบ้าแล้ว”

...เกมรักบนสนามรบที่จะไม่เงียบสงัดอีกต่อไป...

“ข้าก็มาให้กอดแล้วไม่ใช่หรือ” ยั่วยวนด้วยรอยยิ้มน่ารัก กุมข้างแก้มแม่ทัพปากร้ายไว้ในอุ้งมือให้เขาไปไหนไม่รอด เป็นใบ้เบื้อพูดไม่ได้ซื่อชวินก็หลงเคลิ้มแทบแย่แล้ว มาคราวนี้พูดได้จ้อไม่หยุดเขาคงต้องกองแทบเท้าให้รู้แล้วรู้รอด...ไม่ใช่หรือท่านพี่”

“อยากให้ข้าบ้าจริงๆ หรือ!

“เอาคืนที่ชอบทำเสียงแข็งไล่ข้านัก” 

บิดปลายจมูกได้รูปของเขาอย่ามันเขี้ยวไม่เกรงกลัว พริบตาถัดมาก็ถูกเขาทำโทษด้วยการปลดสายคาดเอวออกในทันใด ลู่หานหัวเราะคิกคักชอบใจนัก ทว่าพอถูกเขาสอดมือเข้าใต้ร่มก็นิ่วหน้ากัดปากเสียวซ่าน 

“อื้อ! ..มือ!...

“มือข้ามันทำไมหรือ ใช่ว่า...กำลังแกล้งเจ้าอยู่หรือไม่”

แม่ทัพมากเล่ห์เหยียดยิ้มร้าย อาภรณ์ถูกเปลื้องออกเชื่องช้าเสียจนลู่หานแทบไม่รู้ตัว 

เพียงเจ้าตากวางเงยหน้าสบสายตาก็ถูกเชยคางป้อนจูบดุดัน เผยอริมฝีปากเมื่อใดก็เปิดโอกาสให้เขารุกล้ำขบคลึงไม่ห่าง ถูกปลายลิ้นหยอกเอินเลาะเล่นให้วูบวาบ สายตาพร่ามัวแต่กลับเห็นเขาเด่นชัด

...ต้อนจูบด้วยปลายลิ้น คลึงเคล้าอย่างเจ็บแสบด้วยการขบกัด ซับน้ำสีใสที่เอ่อล้น ก่อนจะบีบมือกำแน่นไปทั่วร่างยามเราสองเบียดตัวแนบชิดเข้าหากัน...

“อ...ท่านแม่ทัพ!

องค์เล็กตัวเปลือยล่อนจ้อนน่าจับเขมือบมันซะเดี๋ยวนี้จริงๆ

“เวลาแบบนี้...ข้าอยากให้เจ้าเรียกข้าว่าซื่อชวินมากกว่า”

ร่างสูงยักคิ้วกวนโมโห ตะปบสองมือเข้าหาสะโพกกลมที่ยกร่อนสับส่ายให้กดลงแนบชนิดกลางลำตัว เขาเผลอสูดปากอย่างยากเย็นเพราะรู้ดีแก่ใจว่าอะไรมันปะทุร้อนรออยู่แล้ว ผิวกายขาวนวลจับไปก็ช้ำมือแดงเรื่อทั่วตัว เสียงหวานครางกระเส่ายิ่งทวีความกำหนัดให้พุ่งพล่าน

“อ๊ะ!......” มือน้อยยกปิดปากกลัวหลุดเสียงครางกระฉ่อนออกนอกกระโจมให้คนอื่นสงสัย ใบหน้าหวานพราวด้วยเม็ดเหงื่อเมื่อถูกอู๋ซื่อชวินลงน้ำหนักไล่เรื่อยตั้งแต่สะดือจนกลางอก ปากเขาหรือก็พรมจูบไปทั่วลำคอไม่หยุดหย่อน ร...ร้อน...แต่..รู้สึกดีนัก “เดี๋ยวคนอื่น...อ๊ะ......คนอื่น!

...มีแค่ข้ากับเจ้า”

เขาบอกแทนคำนั้นด้วยการกระทำร้อนผ่าวถัดมาจนหน้าแดงซ่าน

สอดมือเข้าลึกใต้สะโพกก่อนแทรกปลายนิ้วกดย้ำหลายครั้ง ร่างเล็กสะดุ้งหวืออยู่ไม่สุขจนปัดป่ายท้าทายของอันตรายใต้กางเกงผ้าของเขาซุกซน มือน้อยยึดจับกลับกลายเป็นช่วยเขาปลดผ้าแทบเปลือยเปล่า ขูดเล็บเป็นทางยาวเมื่อเผลอเกร็งแน่นยามถูกโพลงปากอุ่นฉาบฉวยก้มกัดเนินอก

สะบัดใบหน้าเชิดหนีพลางปรายตาฉ่ำวาวมองเขาแล้วยิ้มยั่ว

“อื้อ...อย่าทำข้าเจ็บนักเล่า...อ๊ะ! ...เพิ่งบอกว่า

ลู่หานอยากร้องไห้นัก น้ำตาเอ่อล้นขอบตาเพราะถูกเขากระทุ้งปลายนิ้วและเล้าโลมขยี้ปลายนิ้วลงบนยอดอกไม่ลามือ ใต้สะโพกที่นั่งทับมีบางสิ่งดุนดันทักทายสวนสะโพกขยับน้อยๆ ให้เขินม้วน และน่าอายนักที่ลู่หานเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าตนเองกำลังต้องการเขาขนาดไหน

“ช...ชวิน...อ๊ะ” 

...ต้องการเขาไม่ต่างกัน

“อา...เจ้า...” กล้าถึงเพียงไหนถึงขนาดช่วยรูดรั้งแกนกายแข็งกร้าวของเขาด้วยอุ้งมืออย่างไร้เดียงสาปานนี้ ซื่อชวินกัดปากอดทน ยามลู่หานกดปลายนิ้วเกลี่ยส่วนปลายเขาอยากผลักเจ้าตากวางแล้วสวนกายเสีย ท้ายสุดกลับเอาคืนได้แค่บดขยี้รังแกตุ่มไตที่แดงแจ๋เท่านั้น “...รุนแรงได้ไหมลู่หาน”

...รุนแรง...

“ข้ารุนแรงกับเจ้าได้มากขนาดไหนบอกข้าหน่อยเถิด”

ซื่อชวินกระซิบถามเสียงพร่าราวกับไม่อยากจะอดทนอีกต่อไปแล้ว 

เขากดจูบข้างแก้มพลางแยกเรียวขาสองข้างออกช้าๆ เพียงลู่หานคลี่ยิ้มผวากอด เขาก็จำยอมโยนทุกสิ่งทิ้งแล้วกระโจนเข้าหาราวกับสัตว์ป่า เพียงแค่เจ้าตากวางเคลื่อนตัวและเป็นฝ่ายยกสะโพกครอบครองก่อน

...ทุกสิ่งก็เริ่มต้นและไม่รู้จบ...

.....จะยอมให้สักวันก็ได้ แต่ท่านอึก!

รวดร้าว...เหมือนร่างกายแทบแตกกระจายเป็นส่วน...

กัดปาดห่อเลือดเพราะเจ็บสุดหัวใจแต่ยอมให้

เสียงเนื้อกระทบกันลั่นพรวดพราดเมื่อท่อนเนื้อใหญ่โตคับแน่นสวนกานเข้าหา 

ร่างกายถูกดึงหมุนให้แนบหน้ากำผ้าโก่งสะโพก รอยรักสีแดงชาดสร้างความเจ็บหนึบเมื่อเขากดจูบทั่วแผ่นหลัง เพียงเอี้ยวหน้ามองเห็นเสี้ยวหนึ่งก็ก้มงุดหนีไม่แทบไม่ทัน

“อ๊ะ...ชวิน...ข้า

สายตาเขา...มองด้วยความรักใคร่มากจนเกินไป

ราชนิกุลตัวน้อยครางเสียงระส่ำเมื่อเรือนกายกำยำของแม่ทัพหนุ่มเริ่มเคลื่อนตัวโหมกระหน่ำ หนักหน่วงดุร้ายกว่าครั้งใด ร่างกายสั่นคลอนขยับสั่นไหวควบคุมไม่ได้ตกอยู่ใต้อาณัติของเขาอย่างสมบูรณ์ มันทั้งแข็งกร้าว...ร้อนเร่า...ดุดัน...และ...โหยหา...

...เดี๋ยวก่อน แล้วแผลเขาล่ะแผล!

“ชวิน! อ๊า! อึก...แผลท่าน...อ๊ะ”

“ข้าทนเจ็บได้ อ...แต่ทนไม่กอดเจ้าไม่ได้”

..อึก.....

คำพูดใดไม่อาจทัดทานเขาได้อีก

สะโพกสอบสวนรับไม่รู้จักเหนื่อย บดเบียดเนื้อกายอุ่นร้อนเข้าหาลึกล้ำจนลู่หานน้ำตาร่วงปรอย 

คมเขี้ยวกัดทั่วแผ่นหลังยามซื่อชวินสวนสะโพกเข้าออกช่องทางอุ่นนุ่ม เขากัดฟันกรอดเพราะถูกตอดรัดจวนจะคลั่ง มือบีบเค้นยอดอกแข็งเป็นตุ่มไตให้ลู่หานดิ้นพล่านตัวอ่อน

คิดถึง...อยากกอด...

แผ่นอกแข็งกร้าวไม่ต่างจากส่วนกลางแข็งขืนเสียดสีแผ่นหลังนวลของเชื้อพระวงศ์ตัวน้อยจนก่อเกิดเสียงดังซ่าน เสียงครางหวานกระเส่าปลุกเร้าอารมณ์ให้ทวีคูณไม่อยากดับ สะโพกกลมร่อนเข้าหาตอบรับยิ่งทำเอาเขาหน้ามืดรุนแรงเข้าใส่จนลู่หานร้องลั่น

“อ๊า......อ๊ะ...” ลู่หานเจ็บหน่วงแต่สุขสมยิ่งกว่า เขาบอกจะรุนแรงแต่ก็ออมแรงไม่กล้าทำ ร่างเล็กเม้มปากแน่น ตั้งใจเอี้ยวหน้าปรือตาหวานฉ่ำบอกเขารบเร้าวอนขอ “ท...ท่านพี่...กอดข้า อ๊ะ...กอดอีก...

บ้านัก! ซื่อชวินสบถไร้เสียงก่อนพลิกร่างเจ้าจอมซนตัวแสบให้นอนหงาย

โน้มตัวกระซิบเสียงแหบพร่าเจือความต้องการเหลือล้นเป็นคำเตือน

“อยากตายคาอกข้าขนาดนั้นก็เตรียมใจเอาไว้เล่า”

เตียงนอนไม้ดังลั่นหลังสิ้นเสียงคำพูดเขา

เพียงเรียวขาเกี่ยวกระหวัดได้เขาก็โถมกายเข้าใส่ราวกับก่อนหน้าเป็นเพียงเรื่อง ล้อเล่น หลอกเด็ก 

เส้นผมปลิววุ่นกระจายทั่วฟูกนอน เนื้อตัวพราวเหงื่อเสียดสีไม่ต่างจากส่วนกลางลำตัวที่ปริ่มน้ำแดงฉ่ำ ลู่หานกัดปาก แทบจะล่องลอยไม่ติดพื้นเพราะความ ดุร้าย ของเขาจวนจะบ้า

เขากัดไปทั่วราวกับเสือจ้องขย้ำรอตะครุบ

เขาลากผ่านปลายลิ้นและทำเรื่องน่าอายโดยการก้มกัดบั้นท้ายลู่หาน และลงต่ำเสียงยิ่งกว่านั้นจนลู่หานแทบไม่กล้าจินตนาการถึง รู้เพียงแต่ว่าช่วงล่างชื้นไปหมดเพราะลิ้นร้อนของเขา เห็นเพียงกลุ่มผมดำสนิทขยับไหวปรนเปรอจวนจะขาดใจ

“อ๊า...อะ...ชวิน...

...เราสบสายตากันและลู่หานบอกเขาให้เร็วเข้า...

เคยสงสัยว่าชั่วชีวิตนี้จะยอมลงให้ใครคนหนึ่งได้เท่าใดก็เมื่อมาเจอเขา ยอม...นอนให้เขากระทำตามใจชอบปล้นสวาทตักตวงเอาแต่ใจ ริมฝีปากเขาร้อนฉ่าเกี่ยวกระหวัดจูบจนชื้นแฉะ ช่วงล่างสอบประสานดุนดันและตอกลึกราวกับลงเสาหลังใหญ่

“ข้าชอบเสียงครางของเจ้า...อา...ชอบ...ชอบมาก”

“อ......อีก ซื่อชวิน...

...และบอกเขาด้วยการไล้นิ้วลงต่ำจนถึงเชิงกรานว่าชอบสิ่งที่เขาทำไม่แพ้กัน...

แม่ทัพแดนใต้กระตุกยิ้มพลางเลิกคิ้วแพรวพราว แยกนวลเนื้อขาวที่รองรับความต้องการเขาจนบวมแดงให้แยกออกและสวนจังหวะกระชั้นชิดเสียจนร่างเล็กสั่นคลอนจิกเท้าไขว่หาอากาศ อ้าปากพะงาบรวยรินตาหวานราวกับร้องเรียกให้กระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ข้าอยากกัดหน้าอกเจ้า อยากทำให้ขาดวิ่นติดปาก อยากโลมเลียไปทุกสัดส่วน”

“ใจร้ายนัก อ๊า!” จังหวะที่แกนกายคับแน่นกระแทกถูกจุดกระสัน ความต้องการหลั่งไหลเป็นสายน้ำน่าอายจนลู่หานดิ้นพล่านกระตุกเผลอตอดรัดแกนกายเขาถี่ยิบ รวยรินสิ้นท่ากับพื้นหายใจแทบไม่ทัน “อื้อ! อ๊ะ...อา.....ซื่อชวิน...ชวิน...

...สวรรค์...เขาเก็บกดมาขนาดไหนป่านนี้แล้วยังไม่มีทีท่าจะเสร็จสมเล่า!

“อ๊า..อะ...ยัง...ยังอีกหรือ...

เหตุใดจึงไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยสวนกายกระชั้นถี่เช่นนี้ แทบจะไม่ไหวแล้ว...

“อีก...

“อ๊ะ...อ๊ะ! อา...ชวิน...

พายุอารมณ์โหมกระหน่ำระลอกสุดท้ายเมื่อแกนกายใหญ่โตแข็งขืนกระทุ้งหนักส่งเสียงกระทับลั่น 

ลู่หานโอบอุ้มตอดรัดเขาถี่ยิบจนเสี้ยวหน้าคมเบ้บูดกักเก็บอารมณ์เอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป สายน้ำอุ่นร้อนฉีดใส่เอ่อร้อนมากมายเสียจนไหลอาบเรียวขา

“อา...ลู่หาน...

เขาซบหน้ากับแผ่นอกเปลือยของลู่หานพลางยิ้มร้าย ขยับตัวเข้าออกเชื่องช้าราวกับต้องการจะช่วยกวาดต้อนคราบรักให้หมดจด ขบกัดยอดอกอย่างมันเขี้ยวจนราชนิกุลตัวน้อยตวัดสายตามองค้อนทันควัน

“อะไรเล่า! ......ทำอะไร... 

“ทำรักกับเจ้า”

“ฮื่อ! ชื่อชวิน...

เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อน...

เขาเพิ่งจะเสร็จสมไปเมื่อครู่แล้วเหตุใดมันจึง...มันจึงแข็งกร้าวขึ้นมาอีกเล่า...

“ลืมง่ายเสียจริงเจ้าตัวน้อย”

......

“ข้าบอกเจ้าแล้ว...ว่าให้เตรียมใจ”

แม่ทัพหนุ่มกระตุกยิ้มเป็นต่อพลางดึงรั้งข้อมือขาวกระชากติดประชิดตัว กล่อมเกลาด้วยการพรมจูบซุกซนให้คนช่างเถียงจอมโกหกผินหน้าหนีทว่าก็ระเบิดหัวเราะร่าชอบพอไม่กล้าหนี

...จะได้เริ่ม...บทรักครั้งที่สองของเราเสียที...



- - - 
ส่ง feedback และกลับตอนได้ที่ : click

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม