STARRY NIGHT 09 : เด็กเลี้ยงแกะตาใส (CUT)

STARRY NIGHT 09 : เด็กเลี้ยงแกะตาใส (CUT)


คำเตือนเหล่านั้นเป็นเหมือนสัญญาณให้เราสองคนรีบผละห่างกันเสีย

ทว่า ในความเป็นจริงซื่อชวินกระชากร่างแบบบางของเจ้าตัวน้อยปะทะอกและก้มหน้าประกบปากคนช่างเถียงไม่ให้พ่นคำพูดแสนรั้นได้อีก เขากระชากเสื้อผ้าตนออกและขว้างทิ้งเผยเรือนร่างกำยำสมตำแหน่งไม่อายฟ้า

เขาอยากกัดให้ปากแตกจนเลือดซิบ อยากปราพยศให้ร้องครวญระส่ำใต้ร่างและดิ้นพล่าน พอเห็นลู่หานขาวโพลนแทบจะเปล่าเปลือยอารมณ์ที่สะกดกั้นก็เร่งปะทุหนัก

ปลายลิ้นอุ่นร้อนเกี่ยวพันและดูดดึงยุ่งเหยิง ซ้อนมือรั้งท้ายทอยคนใบ้เบื้อให้เงยหน้ารับจูบแต่โดยดี เสียงจาบจ้วงจากรสจูบดังขึ้นฟ้องการกระทำร้อนเร่าทั่วห้องกว้าง

ซื่อชวินรู้ดีว่าเขากำลังทำเรื่องไม่สมควร

ไม่ปฏิเสธหรือลู่หานคลอเคลียไม่ห่างพลางดูดคลึงกลีบปากอวบอิ่มนั่นจนสัมผัสได้ว่ากลางลำตัวเต้นตุบ ปฏิเสธข้าเสียสิ

เตรียมใจเอาไว้เถิด ...ท่าน

ข้ามันทำไมเจ้าตัวซน

เอาทองมากองร้อยชั่งแทบเท้าข้าก็ยังไม่พอแน่ จะหมายเอาเงินแค่ห้าสิบตำลึงมาไถ่โทษคราวนี้ อ๊ะ! ไม่ไม่ได้แน่…”

ลู่หานปิดหน้าซ่อนสีหน้าแดงเถือก หลุดเสียงอื้อร้องเพราะถูกเขาฉวยจับส่วนสงวนที่ไม่มีผู้ใดมีโอกาสและได้แตะต้อง เขาไม่ได้ค่อยๆ ทำแต่กระชากกระกางเกงตัวในออกในพริบตา

รอยยิ้มเยาะพึงใจปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลานั่น

มือหนาพลิกตัวเขาให้หันหลังก่อนล็อกแน่นชิดตัว ความแข็งขืนและอุ่นร้อนจากเขาจึงแผ่ผ่านเนื้อผ้าทักทายให้รับรู้ หลุบตามองเห็นชัดว่าอาวุธร้ายประจำตัวเขากำลังผงาดกร้าว

เรียกชื่อข้าสิ เรียกจนกว่าจะมีเสียงออกมาให้ได้ยิน เรียกให้ข้ารู้หน่อยว่าเจ้ากำลังจะ ร่วมรักกับใครลู่หาน

เอาแต่ใจนัก ข้าเป็นใบ้ พูดไปก็ —”

พูดไปเขาก็ไม่ได้ยิน

พลัน เสียงต่อคำแปรเปลี่ยนเป็นขยุ้มผ้าปูเตียงแน่น มือหนารูดรั้งแกนกายขาวหนักหน่วง

แทรกตัวตนของตนผ่านร่องลึกด้านหลังเบียดเสียดทักทายความน่ารักนั่นให้ลู่หานโก่งตัวระบายความเสียวซ่าน พรมจูบทั่วแผ่นหลังก่อนสวนกายขยับหนักหน่วง

อาข้า —”

ถ้าเจ้ามีเสียงข้าคงล้อแล้วว่าทนไม่ไหวถึงกับครางไม่เป็นภาษาเลยหรือริมฝีปากกระซิบบอกข้างกกหู ขบกัดราวกับกำลังชิมผลไม้หวาน “…อยากเอาคืนข้าก็ต้องสู้เอาสักหน่อยนะเจ้าตัวแสบ

เรือนกายสูงใหญ่คร่อมกักกันทุกทางหนี แกนกายน่ารักฉ่ำน้ำปริ่มจวนจะร้องไห้ไม่ต่างกับเจ้าของ

คำพูดปรามาสจากเขาคงทำให้ลู่หานกัดฟันน่าดู พริบตาถัดมาเจ้าตัวแสบจึงได้ใจกล้าถึงขนาดส่งมือสั่นเทาของตัวเองมากอบกุมของเขาไว้เต็มรัก

ทั้งที่มือนั่นกุมไม่รอบเสียด้วยซ้ำ

ร้ายนักร่างสูงกัดฟันข่มบอก

กระทุ้งกายแทรกลึกไม่ได้สอดใส่พลางช้อนดวงหน้าแสนรั้นประกบจูบ ละเลียดละไมชิมกระทั่งเจ้าตากวางกระตุกเฮือกซบหน้ากับฝ่ามือโก่งสะโพกขึ้นสูง บั้นท้ายขาวเจือสีเลือดฝาดชวนให้เขาจับได้เต็มสองมือ

ร่างกายเราสองเบียดเสียดคละคลุ้งกับเสียงหายใจหอบถี่ของเขา

ปากช่างเถียงระส่ำเรียกจะผินมอง

“…ท่านแม่ทัพ ท...ท่านแม่ทัพ

อดทนเอาหน่อยคนดีของข้าน้ำเสียงละมุนปลอบโยน และเอ่ยเย้าพูดจาสองแง่สองง่าม ยังไม่ทันได้ทำอะไรมากเจ้าจะยอมแพ้ไปตอนนี้ได้หรือ

ไม่ได้ทำอะไรมาก ไม่ได้ทำหรือ!

เขาเอาแต่สวนสะโพกส่งส่วนน่าอายกุมแน่นเข้าด้วยกันและเสียดสีจนร้อนผ่าว มือก็ขยับรูดรั้งเดี๋ยวคลึงเดี๋ยวผ่อน ทรมานแต่สุขสม มากเสียจนปลดปล่อยคราบสีขาวข้นเปรอะผ้าปูเตียง

บัดนั้นเขากลับใช้สองนิ้วป้ายคราบคาวไว้เต็มรักและค่อยๆ กดนิ้วนั่นภายใต้ส่วนลับนุ่มนิ่ม ลู่หานสะดุ้งหมอบกัดปากพ่นลมหายใจกระชั้น น้ำตาคลอเพราะเจ็บแสบกับความแปลกปลอม ยามนิ้วเขารุกราน ลู่หานเหมือนถูกพรากสติออกจากตัว

อ๊ะ อาอึก ท่านนี่มัน!”

เจ้ารัดนิ้วข้าแน่นขนาดนี้ อู๋ซื่อชวินคงน้อยใจแย่

ไม่ไหว ข้าข้าต้อง อ๊า!”

อยากมองหน้าเจ้ามากกว่า ข้าอยากมองให้เต็มตาว่าเวลาเจ้ากลืนมันเข้าไปจะทำอย่างไร เวลาเราแนบชิดกันเป็นหนึ่งจะทำให้เจ้าแสดงสีหน้ารวดร้าวถึงเพียงไหน

เขาจึงพลิกตัวอีกฝ่ายให้แผ่นหลังแนบพื้น กระถดตัวต่ำพลางก้มลงพรมจูบข้อเท้าขาว ซื่อชวินจับเท้าเจ้าตากวางแนบอกข้างซ้าย เขาเห็นไปถึงไหนต่อไหนว่าเรือนร่างขาวผ่องนี่ยวนใจเพียงใด 

ปล่อยเท้าข้าเถอะท่านแม่ทัพ เท้าเป็นของต่ำจะเอาไปแนบอกหรือเหยียบสูงได้อย่างไรลู่หานร้องบอก หน้าตื่นขึ้นอีกเมื่อเขากดไว้ไม่ยอมปล่อยและพูดต่อ

เท้าเจ้าสูงส่งและล้ำค่ากว่าชีวิตของข้านัก

อ๊า!”

สะโพกสอบดันกายผ่านช่องทางเร้นลับนาทีนั้น

ใบหน้าเขาชื้นเหงื่อพราวทั่วตัว ความแข็งขืนอุ่นร้อนกระจายทั่วภายในตัวลู่หาน คับแน่น อึดอัด และเบียดเสียด เขาขยับตัวไม่กี่คราวก่อนทุ่มแรงโถมกายกระหน่ำหนักหน่วง

ขาเตียงลั่นเสียงฟ้องการกระทำในคืนหนาวของเราสองคน

แน่นแถมยังร้อนไปหมด

เสียงเขาครางพึงใจในลำคอแซมด้วยเสี้ยวหน้ากดกั้นอารมณ์ชวนให้ลู่หานชูมือหาแล้วโน้มหน้าคนปากเสียเข้ามาจูบไม่บอกกล่าว ลิ้นเล็กไล้กวาดทั่วโพรงปาก ครางผะแผ่วเผยออ้าแดงเรื่อให้เขากระชากจูบเท่าที่ใจอยาก

อื้อ อา —”

เรียกข้าเร็วเข้า

ท่านแม่ทัพ…”

ไม่ใช่ชื่อนี้ลู่หาน อ่าเรียก เรียกชื่อข้า

“…ชวิน

อีก อา เรียกอีก!

แม้ไม่ได้ยินเสียงแต่เห็นกับตาว่าปากน้อยๆ นั่นขยับเรียกชื่อเขา เรียกชื่อเขาที่พาลให้หัวใจเต้นระส่ำรัว เท่านั้นเขาก็ไม่อาจทนไม่ไหวยึดต้นขาสองข้างของลู่หานไว้แล้วขยับถี่ยิบ

ยอมให้มือน้อยนั่นจิกลงบนบ่าเท่าที่ใจต้องการ

แต่ตนเองก็กระทุ้งตัวตนแข็งกร้าวสวนรับ แกนกายเล็กสู้มืออีกคราวเขาก็เอ็นดูรูดรั้งจนปริ่มน้ำ ยอกดอกสีชมพูเรื่อแข็งเป็นไตเพราะความหนาวก็ถูกทำให้หลอมละลายด้วยปลายลิ้นจนชื้นแฉะ

ครอบครองด้วยโพรงปากอุ่นร้อน กระหวัดเกี่ยวจนลู่หานจิกปลายเท้าและโลมเลียหนักข้อทั้งที่ยังยึดสะโพกสาวเข้าออกหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง

ลู่หานไม่อาจทนนอนนิ่งติดพื้นได้ เขาบิดเร่าแหงนหน้าพ่นลมหายใจระบายความเสียวซ่านที่ไม่เคยได้รับจากผู้ใดเป็นครั้งแรก น่าอายนักที่รับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังตอดรัดเขาไม่หยุด

ส่งมือขยุ้มแทรกกลุ่มผมสีดำขลับ พยายามเอื้อนเอ่ยคำพูดหวังให้เขาอ่านออกชัดทุกถ้อยคำ

อึก อะอ๊า! ฟัง ฟังข้า

ซื่อชวินครางข่มใจพยักหน้ารับ

ท่านรุนแรงถึงอ๊ะ! ถึงเพียงนี้แล้วข้าจะบอกได้อย่างไร

ปลายทางจวนจะถึงฝั่งอยู่รอมร่อ ซื่อชวินพยายามแทรกตัวให้ลึกจนสุดและนิ่งค้างก่อนดันตัวเนิบนานทว่าหนักหน่วงทุกจังหวะ มือน้อยปัดป่ายทั่วแผงอกกำยำที่แน่นไปด้วยมัดกล้าม ขูดลงผิวคราวใดเขาเป็นต้องกัดปากข่มใจและสวนสะโพกสอบเข้ารุนแรง

“…ข้ากำลังจะทนไม่ไหวเขาซบหน้าลงกับฝ่ามือน้อยนั่น ซื่อชวินรู้สึกดีเสียจนยับยั้งใจไม่อยู่

การได้โอบกอดคนที่ต้องใจนับเป็นความสุขที่อธิบายไม่ได้ด้วยคำพูด

ฟังข้าให้ดีคนปากร้าย ม...มี อึก อีกเรื่องที่ท่านต้องรู้

เรื่องสำคัญที่ถึงเวลาต้องสารภาพเสียที

ทว่า ซื่อชวินทนรอฟังไม่ไหว ตัวตนเขากำลังเต้นตุบตับอยากปลดปล่อย ยามสวนสะโพกและถูกตอบรับเป็นจังหวะเดี๋ยวกันเขาจวนจะบ้า พรมจูบไปที่ใดกลับเป็นเขาที่จะระเบิด

“ชวิน...เบา...อ๊ะ เบาหน่อย...

จนกระทั่งความอดทนขาดผึง เรือนกายสูงใหญ่ทับคร่อมพลางหมุนตัวเจ้าจอมซนให้กอดหมอนตะแคงข้างซบหน้าซ่อนไว้ ลึก..กว่าครั้งใด ปลดเปลื้องทุกอารมณ์เมื่อสะโพกกระชั้นชิดเอาแต่ใจ

“อะ  อ๊า!

ลู่หาน

“ซื่อชวิน ข้าจะ

และสิ้นท่าปลดปล่อยสายน้ำอุ่นร้อนทั่วช่องทางเร้นลับที่เขามั่นใจว่าไม่มีผู้ใดกล้าหรือเคยลิ้มลอง การกระทำเร่าร้อนและรุนแรงในยกแรงจุดรอยยิ้มได้มากกว่าเวลาพิชิตศึกใด

ไม่มีเสียงครางหวานๆ ให้ได้ยินแต่สุขล้นเต็มอก

เขาสวมกอดแนบร่างแบบบางไว้กับอก หอบหายใจเหนื่อยซบหน้าอยู่กับเจ้าตัวซน พรมจูบบนหัวไหล่นวลหอมกรุ่นที่ปนเปด้วยกลิ่นเหงื่อและกอดไว้ข้างกันให้คลายหนาว

“…ชวิน ซื่อชวิน…”

ข้าอยากลงโทษเด็กเลี้ยงแกะอีก อยากให้ตัวเองเป็นคนเดียวที่ได้ฝากตัวตนไว้กับเจ้า อยากทำให้เจ้าร่ำร้องแต่ไม่กล้าปล่อยข้า

เอาแต่ใจเหลือเกิน

เขาซุกหน้ากับซอกคอแดงช้ำ พยักหน้าบอกรับว่าใช่

เพราะอู๋ซื่อชวินเป็นจอมร้ายปากเสียแสนเอาแต่ใจ ฉะนั้น


ยอมให้ข้า กอดอีกสักรอบดีหรือไม่เล่า


กลับตอน - CLICK!

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม